การสร้างผลงานที่เปลี่ยนแปลงจากระบบอนาล็อกสู่ระบบดิจิทัลตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
“The evolution of design and technology over the past decade” หนึ่งในหัวข้อการเสวนาภายในงาน “COLLECTIVE by Cloud 11” ที่เล่าถึงเรื่องราวการทำงานออกแบบในยุคเปลี่ยนผ่านตลอดกว่าสิบปี โดยสปีกเกอร์ที่มาร่วมพูดคุยและเผยเรื่องราวที่น่าสนใจในสายงานออกแบบทั้ง “พงษ์ภาสกร กุลถิรธรรม” หรือ “KOB B.O.R.E.D (กบ บอร์)” ศิลปินสตรีทอาร์ต, “จันทร์เพ็ญ กูลแก้ว” จาก
“DECIDEKIT” สตูดิโอโมชันกราฟิกและโปรเจคชันแมปปิ้ง (Projection Mapping) และ “Pomme Chan (ปอมชาน)” นักวาดภาพประกอบ ซึ่งทั้งสามครีเอเตอร์ชื่อดังนี้ก็ผ่านการทำงานมาอย่างคร่ำหวอด และแน่นอนว่า ได้ผ่านการใช้งานเทคโนโลยีมาหลากหลายรูปแบบในการผลิตผลงานของตัวเองด้วยเช่นกัน
การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีที่สร้างผลดีต่อคนทำงาน
ทั้งสามคนต่างก็มองว่าวิวัฒนาการของเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานจะเลือกหยิบการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นมาใช้กับการทำงานหรือไม่ บางอย่างอาจจะไม่ได้มีผลต่อการทำงานมากเท่าไรนัก แต่ก็มีบางอย่างที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนและมีผลกับงานของเจ้าตัวด้วย
สำหรับจุดเปลี่ยนในการเข้ามาของเทคโนโลยีของ พงษ์ภาสกร นั้นคือการทำงานจากรูปแบบอะนาล็อกที่ต้องใช้เวลารอในแต่ละขั้นตอนกว่างานจะเสร็จสมบูรณ์นั้น เปลี่ยนมาสู่ยุคของ Real-Time Generative เช่น Virtual, AI หรือ Live Streaming ที่สามารถทำงานไปพร้อมกับการแสดงผลงานได้เลยทันที
ข้อดีคือการทำงานของครีเอเตอร์จะง่ายมากขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่ต้องเสียเวลารอนานกว่าที่จะได้เห็นชิ้นงานออกมา แต่ผู้ผลิตนั้นก็ต้องมั่นใจด้วยว่า งานชิ้นนั้นจะไม่สามารถทำผิดพลาดได้ ถึงจะดูยาก แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านสู่การทำงานแบบ Real-Time นี้ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนวงการการออกแบบในทางที่ดี เพราะก็มีผลงานที่น่าสนใจออกมาให้เห็นในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น
ส่วน จันทร์เพ็ญ เองก็มองว่า ในพาร์ทของการทำโปรเจกชันแมปปิ้งนั้น จุดเปลี่ยนที่เป็นข้อดีของเทคโนโลยีที่เข้ามาคือการช่วยให้คนทำงานออกแบบสามารถปรับเปลี่ยนงานให้เข้ากับสิ่งของต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น ไม่ต้องติดกับกรอบภาพเดิมๆ และทำให้การทำงานเดินหน้าไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
และ Pomme Chan ที่ผ่านการทำงานแบบวาดมือบนกระดาษมาก่อนนั้นก็เผยว่า Wacom Cintiq หรือ จอแสดงผลปากกา ที่สามารถวาดภาพและเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้เลยทันทีนั้นถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่เป็นจุดเปลี่ยนในการวาดภาพของตน เพราะช่วยให้ประหยัดเวลาและลดขั้นตอนการทำงานลง อย่างเช่น การวาดภาพลงบนกระดาษและนำเข้าเครื่องสแกนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการลงสีในคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ผู้ใช้งานต้องจับทางให้ได้ เพื่อใช้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมาพัฒนาผลงาน
เมื่อความเป็นดิจิตอลเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น หน้าที่ของผู้ใช้งานอย่างเราก็คือการวิ่งตามเพื่อนำเอาวิวัฒนาการใหม่ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในทุกวันมาปรับใช้กับการทำงาน
ซึ่งในอนาคตต่อไปข้างหน้า เทคโนโลยีก็จะยังคงเพิ่มความสามารถไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับนักออกแบบที่ก็ต้องวิ่งตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้ทัน เพื่อพัฒนาผลงานของแต่ละคนให้ทันสมัยและสดใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อตามให้ทันโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญของครีเอเตอร์ที่จะทำให้มีไอเดีย มีความสามารถ และมีฝีมือที่จะผลิตผลงานดีๆ ออกมาสู่สังคมได้