เทคโนโลยีกับอิสระทางการคิด ผลิต เเละส่งต่องานของผู้คนในวงการดนตรี

เทคโนโลยีกับอิสระทางการคิด ผลิต เเละส่งต่องานของผู้คนในวงการดนตรี

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการผลิตผลงานดนตรีอย่างต่อเนื่อง นอกจากการหน้าที่เป็นตัวช่วยในการผลิตเพลงให้ออกมาตามที่ตั้งใจ เทคโนโลยียังเป็นผู้ช่วยตั้งแต่การสร้างไอเดียเพลง สู่การผลิต ไปจนถึงขั้นตอนการจำหน่าย ที่ไม่ใช่แค่วางขายตามร้านเหมือนในอดีต ผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกซื้อเพลงผ่านช่องทางออนไลน์ เเละเสพเพลงผ่านทางสตรีมมิ่งซึ่งเป็นช่องทางให้นักทำเพลงได้ปล่อยของและทำให้ผู้ฟังสามารถฟังเพลงได้อย่างไม่จำกัด

ในพาร์ทการเสวนาในงาน “COLLECTIVE by Cloud 11”  ที่ชวนให้ทุกคนเห็นภาพของเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการทำงานเพลงผ่านการพูดคุยกับสปีกเกอร์ทั้งสามคนคือ “ท็อป - ศรัณย์ ภิญญรัตน์” CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Fungjai แพลตฟอร์ม Music Streaming, “นีโน่ -เกริก ชาญกว้าง” CEO และ Music Producer จาก HYPE TRAIN GROUP และ ศิลปินอย่าง “เจ - มณฑล จิรา”

ทำงานง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และทุกคนเข้าถึงได้

หากย้อนกลับไปในหลายปีก่อน การทำผลงานเพลงด้วยระบบอะนาล็อกนั้นจะต้องใช้เวลาในการลงมือทำแต่ละขั้นตอนไม่ต่ำกว่าหนึ่งวัน และกว่าจะได้ตัวอย่างเพลงแต่ละเพลงมานั้นก็ใช้เวลาร่วมกันไปแล้วอย่างน้อย 4 - 5 วัน ในขณะที่ปัจจุบันนั้นมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น จึงทำให้การทำเพลงในตอนนี้สามารถลงมือทำได้เลยทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการรอเหมือนอย่างเมื่อก่อน

ในฐานะที่เป็นทั้งศิลปินและนักแต่งเพลง เจ ผ่านการทำงานมาหลายรูปแบบ และเชื่อว่าเทคโนโลยีนั้นเปิดโอกาสทำให้คนที่ไม่มีโอกาสได้ทำ สามารถลองทำอะไรใหม่ๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เพียงแค่มีสมาร์ตโฟน หรือแท็ปเล็ต ก็สามารถลงมือทำเพลงได้เลยทันที เมื่อการเรียนรู้สามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้กับศิลปินใหม่ๆ ได้เข้ามาสร้างผลงานที่น่าสนใจให้กับวงการเพลง

โปรดิวเซอร์ที่เติบโตมากับเทคโนโลยีในช่วงแรกๆ อย่าง  นีโน่ นั้นก็บอกว่าก่อนหน้านี้เขาเองก็ตื่นเต้นกับโปรแกรมเพลงหลายๆ อย่างที่เคยใช้กันในยุคก่อน และหากเทียบกันกับในตอนนี้ ตัวเทคโนโลยีต่างๆ นั้นก็เป็นวิวัฒนาการที่พัฒนาขึ้นมา ทำให้ความตื่นเต้นในแต่ละยุคนั้นก็แตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น

เปิดประสบการณ์ใหม่ทางด้านดนตรีผ่านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี

ไม่ใช่แค่เข้ามาช่วยศิลปินที่ทำเพลงอยู่แล้วทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น แต่เทคโนโลยียังช่วยให้คนที่ไม่สามารถเข้าถึงการทำเพลง ได้สัมผัสกับประสบการณ์นี้ เช่น ผู้สูงอายุที่อาจจะเพิ่งค้นพบตัวเอง แต่ไม่เข้าใจความซับซ้อนของเครื่องมือหรือขั้นตอนการทำเพลง หรือว่าคนตาบอดที่สนใจการทำเพลง ก็อาจจะมี AI หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถเข้ามาช่วยการเข้าถึงผ่านการทำงานในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งก็ได้ 

ส่วน ท็อป เองที่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในขั้นตอนการทำเพลงเหมือนสปีกเกอร์อีกสองคน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งคนที่คลุกคลีอยู่กับวงการเพลงมาอย่างยาวนานก็มองว่าการที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสร้างสรรค์เพลงนั้นทำให้มีความหลากหลายในการทำงานมากขึ้น ทุกวันนี้ศิลปินใหม่ๆ มีความกล้าที่จะทำงานในแนวที่เขาเชื่อมากขึ้น ต่อให้กลุ่มคนฟังจะเล็กแค่ไหนก็ตาม แต่อย่างไรแล้วก็ย่อมมีกลุ่มคนนั้นแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกลัวเสียต้นทุนสำหรับการผลิตเทปหรือซีดีออกมา และไม่ต้องพยายามทำแนวเพลงที่คาดว่าจะต้องสำเร็จออกมาแน่นอน อาจเรียกได้ว่า เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้ศิลปินใหม่ๆ มีอิสระในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม

เทคโนโลยี คีย์ลัดของการทำงาน แต่ไม่ใช่ทางลัดแห่งความสำเร็จ

แม้จะทำงานได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ความสามารถของเทคโนโลยีก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีว่าสิ่งที่ทำออกมานั้นจะประสบความสำเร็จได้โดยง่ายเช่นกัน ซึ่งคนที่ทำและพยายามที่จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ มีพลังและความตั้งใจในการทำนั้นจะเป็นตัวคัดกรองคุณภาพของดนตรีที่สุดท้ายจะกลายเป็นเพลงดังอย่างที่หวังได้

เช่นเดียวกับ เจ ที่ทิ้งท้ายถึงการมีอยู่ของเทคโนโลยีในการทำงานว่า แม้การเข้ามาของเทคโนโลยีจะทำให้การทำงานเพลงนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก หรือบางคนอาจจะมองว่าการมีอุปกรณ์ที่คุณภาพดีที่สุดถึงจะทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ความจริงแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นก็ขึ้นอยู่กับความพยายาม ความตั้งใจ ความอดทนและความมุ่งมั่นในการเรียนรู้และยอมรับความล้มเหลวจนกว่าจะทำสำเร็จต่างหากคือสิ่งที่จะทำให้ผลงานที่ออกมาเป็นผลงานที่มีคุณภาพอย่างที่ต้องการ 

ในปัจจุบันนี้เราก็มักจะได้พบกับผลงานจากศิลปินใหม่ๆ ที่ได้ลองผิดลองถูกจากการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ในการสร้างผลงานของตัวเอง ซึ่งนี่เองก็เป็นข้อดีของการมีเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างพื้นที่และขยายกลุ่มคนทำงานให้กว้างมากขึ้น เป็นการเปิดรับเด็กรุ่นใหม่ที่มีใจรักและมีความสนใจในวงการเพลง เชื่อว่าในอนาคต วงการเพลงของไทยจะมีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องของแนวดนตรีและกลุ่มศิลปิน และอาจสร้างความสนใจให้กับประเทศอื่นมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้