EXPERIENCES

เตรียมพร้อมกับเฟสติวัลของเหล่าครีเอเตอร์รูปแบบใหม่ในงาน Collective by Cloud 11

Get ready for the debut of the new phase of creators at the Collective by Cloud 11 event

โลกของเทคโนโลยีคือวิถีชีวิตในปัจจุบัน ไม่ว่าจะดำเนินชีวิตในรูปแบบใดก็ล้วนแล้วแต่มีเทคโนโลยีผนวกรวมเข้าไปในทุกช่วงเวลาอยู่เสมอ จนได้สร้างการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม รวมไปถึงแวดวงของนักสร้างสรรค์และออกแบบด้วยเช่นกัน ที่ในทุกกระบวนการตั้งแต่การตั้งต้นแนวคิด การสร้างสรรค์ ไปจนถึงการเผยแพร่ผลงานไปสู่สายตาของคนหมู่มาก ต่างก็มีเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มให้การทำงานสร้างสรรค์เกิดความแปลกใหม่และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และเพราะเหตุผลนี้เอง Cloud 11 จึงอยากเชิญชวนเหล่าครีเอเตอร์ทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์สุดสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ใน “Collective by Cloud 11” ครีเอเตอร์เฟสติวัล ครั้งแรกของไทย! 

Collective by Cloud 11 เป็นครีเอเตอร์เฟสติวัลที่เกิดขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่อยากนำเสนอผลลัพธ์ของการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าไปในวัฒนธรรมครีเอเตอร์ ผ่าน Creativity หรือความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อไอเดียเหล่านั้นไปสู่ผู้คนได้ ด้วยการ Collaboration หรือการร่วมกันทำงานสร้างสรรค์ของเหล่าครีเอเตอร์จากต่างแวดวง ที่ต่างก็ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยเทคโนโลยี ที่จะก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบใหม่ที่มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และยังส่งผลให้ Creator Community ของไทย มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นพื้นที่อันปลอดภัย ให้เหล่าครีเอเตอร์หน้าใหม่ได้มีโอกาสเติบโต และเข้ามามีบทบาทสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้การสร้างสรรค์ได้พัฒนาไปสู่ระดับสากล

โดยครีเอเตอร์เฟสติวัลครั้งแรกของไทยในครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2566 มาในคอนเซ็ปต์ Creator Labs ที่จะพาทุกคนไปร่วมกันสำรวจห้องทดลองขนาดใหญ่ของเหล่าครีเอเตอร์แถวหน้าของวงการ ที่หยิบจับเอาไอเดียในขวดทดลองต่าง ๆ มาผสมผสานเข้ากับเครื่องไม้เครื่องมือจากเทคโนโลยีอันทันสมัย จนได้เป็นเฟสติวัลที่สร้างประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ผ่านประสาทสัมผัสต่าง ๆ ที่จะถูกนำเสนออยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ภายใต้โครงสร้างอันแสนน่าสนใจของอาคารฟีฮาแล็บ สถาปัตยกรรมในยุค Modernism ที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นสุขุมวิท โดยมี DUCTSTORE เป็นคิวเรเตอร์หลัก ที่ชักชวนเหล่าครีเอเตอร์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีจากแวดวง Film, Art, Commercial, Visual Creator, Music กว่า 50 ชีวิต มาร่วมกันสร้างสีสันให้กับอาคารแห่งนี้ ผ่าน 5 โซนกิจกรรม

Collective Exhibitions

โซนนิทรรศการจัดแสดงผลงานจากเหล่าครีเอเตอร์โดยจะแยกออกเป็นอีก 2 โซนย่อย นั่นคือ Immersive Art นิทรรศการสุดล้ำที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและศิลปะในหลากหลายแขนง จนเกิดเป็นผลงานที่มอบประสบการณ์การชมนิทรรศการศิลปะในรูปแบบใหม่ ที่น่าตื่นตาผ่านการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสต่าง ๆ ฝีมือการสร้างสรรค์จาก 4 ครีเอเตอร์ชื่อดัง ที่ชักชวนศิลปินและนักออกแบบรุ่นใหม่มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานไปพร้อมกัน นั่นคือ

Kor.Bor.Vor x Square Dots, 


Yellaban x Stupid Shit

 

PAVEE, Chalie N., DecideKit x Phum Viphurit

 

และ From Object Studio x Anofficerdies, Univertar.io, Youth Brush

 

และโซนย่อยที่สอง คือ Collective Arts โซนที่รวบรวมร้านค้าศิลปะของบรรดาศิลปินรุ่นใหญ่ผู้เก๋าเกมส์ด้วยสไตล์อันโดดเด่น ศิลปินรุ่นใหม่ที่มีความน่าสนใจจากไอเดียอันแปลกใหม่ และนักออกแบบสร้างสรรค์มากมายที่ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนวงการศิลปะ ผ่านการคิวเรทโดย พิมพ์ปวีณ สุนทรธรรมรัต ไม่ว่าจะเป็น ยูน-ปัณพัท เตชเมธากุล, TEMPORARY WEST, ธนชัย อุชชิน (ป๊อด โมเดิร์นด็อก), เมธี น้อยจินดา (เมธี โมเดิร์นด็อก), Nev3r, Kob B.O.R.E.D,  ธีธัช ธนโชคทวีพร (Tetat) และแก้วตระการ จุลบล

 

ในโซน Collective Arts ยังมาพร้อมกิจกรรมเวิร์คช็อปศิลปะภาพพิมพ์จาก PPP Studio ที่มีผลงานภาพพิมพ์ของศิลปิน Yuree Kensaku และ Mamablues มาจัดแสดง อีกทั้งยังมีร้านค้าศิลปะจากศิลปิน และดีไซเนอร์มาให้เลือกช้อปกันอีกเพียบ ได้แก่ Tanasan Kanakasem, Dojo, Tu!!, Gumpoong, Asin, Bonus TMC, Vinn Patararin x Phannapast รวมถึงร้านค้าศิลปะของ Young Artists หรือนักศึกษาจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ /มัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทั้งยังมีจัดแสดง Photo Exhibition จากสองช่างภาพแถวหน้าของวงการ ช่างภาพคนแรกคือ พจน์ - พรพจน์ กาญจนหัตถกิจ หรือ SIXTYSIX ที่ถ่ายทอดอาคารฟีฮาแล็บ ที่เขาได้สัมผัสและมองเห็นผ่านเลนส์ของกล้อง และช่างภาพอีกหนึ่งท่านคือ ชำนิ ทิพย์มณี แห่งวงการถ่ายภาพโฆษณา ผู้ก่อตั้ง ชำนิอายส์ สตูดิโอ ที่มาพร้อมผลงานภาพแฟชั่นเซ็ต บอกเล่าเรื่องราวอันผสมผสานระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่เชื่อมโยงเข้าหากันผ่านบริบทของอาคารฟีฮาแล็บ และความโดดเด่นจากคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าแนว Avant-Grade ทั้งหมด 5 ชุดที่ออกแบบโดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต

 

Collective Music Shows

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาจัดเต็มไปกับ Music Performance จากศิลปินไทยที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์และเติมเต็มให้อาคารสถาปัตยกรรมเก่าในยุค Modernism แห่งนี้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดย AUTTA และ WHAL & DOlPH พร้อมสีสันแห่งเสียงดนตรีใน Day Time Club จากเหล่าดีเจที่จะมาผสานวัฒนธรรมดนตรีหลากหลายแนวเข้าไปในเฟสติวัลครั้งนี้ นั่นคือดีเจ MJMA, Mae Happyair, Marmosets, Winkie B และ Club mascot

Collective Talks 

โซนที่ชักชวนเหล่าครีเอเตอร์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น Film, Music Platform, Artist Platform และ Visual Artist มาร่วมกันนั่งพูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมอง และประสบการณ์ส่วนตัวที่พวกเขามีต่อประเด็นหัวข้ออันแสนน่าสนใจที่เกิดขึ้นในแวดวงการออกแบบในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยง เพื่อจุดประกายไอเดียให้กับครีเอเตอร์ยุคใหม่ โดยมีโปรแกรมทอร์คทั้ง 2 วัน ดังนี้

วันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 14:00 – 16:00 โดย Fungjai, มณฑล จิรา และ NINO แห่ง Hype Train Entertainment ในหัวข้อ “The Digital Revolution in Music: Transforming Creation, Distribution, and Consumption” การปฏิวัติของดนตรีสู่ยุคสมัยแห่งดิจิทัล ผ่านการเจาะลึกถึงแนวคิรูปแบบการสร้างสรรค์ผลงาน การสตรีมผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ วิถีการบริโภคดนตรีของคนในยุคดิจิทัล

วันที่ 18 พฤศจิกายน เวลา 16:20 – 17:40 โดย พรรณธร ลออรรถวุฒิ, ภารุต เพ็ญพายัพ, เมธากวี สัตบุตร, ตฤณ นิลกรณ์ และชินธิป แต้มแก้ว ในหัวข้อ “How do you best approach the technological implementation of your work in the creative process?” ชวนสำรวจรูปแบบการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในกระบวนการทำงานสร้างสรรค์ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

วันที่ 19 พฤศจิกายน เวลา 14:00 – 16:00 โดย KOR.BOR.VOR, DICDE KIT, POMME CHAN ในหัวข้อ “The Evolution of Design and Technology Over the Past Decade” ที่พาทุกคนไปพูดคุยถึงวิวัฒนาการ และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีผลต่องานออกแบบและแวดวงศิลปะในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

วันที่ 19 พฤศจิกายน เวลา 16:20 – 17:40 โดย IGLOO STUDIO และทีมโปรดิวเซอร์ชาวไทยจากภาพยนตร์ไซไฟอย่าง The Creator ในหัวข้อ “The Impact of Technology on Storytelling: From Script to Screen” อิทธิพลของเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการเล่าเรื่องในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และแอนิเมชัน ตั้งแต่การกระบวนการเขียนบทภาพยนตร์ไปจนถึงผลงานที่ถูกฉายอยู่บนจอภาพ

Collective Food & Beverage

มาเอนจอยกับร้านอาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย Cuisine ที่คัดสรรรสชาติมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง และเป็นจุดสำหรับแวะพักเติมพลัง ก่อนไปเต็มอิ่มต่อกับประสบการณ์สร้างสรรค์ส่วนอื่น ๆ ในงาน

Collective Networking Session

โซน Networking Session โดยทีม Studio 11206 เซสชั่นที่เปิดพื้นที่ให้ผู้มาร่วมงานได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์การสนทนาในรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยทำให้ผู้คนแปลกหน้าที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ได้เชื่อมโยงเข้าหากันมากยิ่งขึ้น ทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสนทนาผ่านหัวข้อ “Talk That Talk: Does AI Dream of Electric Sheep? ในหลากหลายประเด็นที่เข้ากับยุคสมัย เพื่อสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ ๆ ให้กับ Creator Community ที่ช่วยส่งต่อแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ที่อาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ จนนำไปสู่ผลงานและการพัฒนาที่ยกระดับให้ครีเอเตอร์ไทยได้ก้าวเข้าสู่ระดับสากล

 

โดย Networking Session จะเปิดให้เข้าร่วมทั้ง 2 วัน วันละ 3 รอบ คือ 14.20 –15.20 น./ 15.40 -16.40 น. และ 17.00 – 18.00 น. ให้ผู้สนใจจองที่นั่งเข้าร่วม 20 ท่านต่อรอบ โดยจะเปิดให้จองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเร็ว ๆ นี้

ใครที่สนใจเข้าร่วม Collective by Cloud 11 ก็สามารถเข้าร่วมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดระยะเฟสติวัลทั้ง 2 วัน และสามารถเข้าไปลงทะเบียนล่วงหน้า ผ่าน https://bit.ly/COLLECTIVE2023</a > เพื่อร่วมสนุกและเป็นส่วนหนึ่งกับประสบการณ์ครั้งใหม่ในแต่ละโซนได้

พบกันที่งาน Collective by Cloud 11 ณ อาคารอุดมพร - ฟีฮาแล็บ (Phihalab) ในวันที่ 18 – 19 พฤศจิกายน 2566 นี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. – 20.00 น. เดินทางง่าย ๆ ด้วย BTS มาลงที่สถานีปุณณวิถี ทางออก 2

 

UNLOCK
THE EXCLUSIVE
EXPERIENCES
เพียงลงทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของ Collective by Cloud 11 เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์แห่งความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ สัมผัสความพิเศษของการเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่แห่งไอเดีย และเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ไปสู่อนาคต
REGISTER NOW short arrow
line emoji bottom